เลือกชุดชั้นในอย่างไร!? ให้เหมาะสมกับ”หน้าอก” ของเรา ??

         ชุดชั้นในถือว่าเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิตของสาวๆ ซึ่งการเลือกชุดชั้นในให้เหมาะกับขนาดหน้าอกของตนเองก็สำคัญ เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้แต่งตัวสวยงามแล้วนั้น การใส่ดชุดชั้นในที่เหมาะสมยังสามารถเสริมบุคลิกภาพให้มีสรีระที่ดูดียิ่งขึ้นอีกด้วย

         หากใส่ชุดชั้นในที่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ไม่พอดีกับขนาดหน้าอกของตนเอง อาจส่งผลให้หน้าอกหย่อนคล้อย เกิดอาการปวดหลังก็เป็นได้ ดังนั้น วันนี้เราจะมาบอกวิธีง่ายๆ ในการเลือกชุดชั้นในให้เหมาะกับหน้าอกของสาวๆ กันค่ะ

 

เลือกขนาดให้ถูกต้อง

         สิ่งสำคัญในการเลือกชุดชั้นในให้เหมาะกับตนเองคือ การรู้ขนาดหน้าอกของตัวเองก่อน ซึ่งหน้าอกอาจมีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลา ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนและขนาดตัวของสาวๆ ในขณะนั้น โดยขั้นตอนการคำนวณขนาดหน้าอก มีดังนี้

1)      ขนาดของลำตัว = ใช้สายวัด วัดรอบใต้อก

2)      ขนาดคัพ = ใช้สายวัด วัดรอบหน้าอก ลบด้วยขนาดของลำตัว โดยที่ผลต่างจะเป็นขนาดคัพ

ผลต่าง 911 เซนติเมตร = คัพ A

ผลต่าง 11.513.5 เซนติเมตร = คัพ B

ผลต่าง 1416 เซนติเมตร = คัพ C

ผลต่าง 16.518.5 เซนติเมตร = คัพ D

ผลต่าง 1921 เซนติเมตร = คัพ E

ตัวอย่างเช่น

1)      ขนาดของลำตัว (ขนาดใต้อก) = 76 เซนติเมตร / ขนาดรอบอก = 90 เซนติเมตร

2)      ขนาดคัพ = C (ผลต่าง: 90 76 = 14 เซนติเมตร)

ขนาดหน้าอก = 34/75C

 

หมายเหตุ

·       การวัดไซส์ แนะนำให้วัดเป็นเซนติเมตร เพราะจะได้ขนาดที่แม่นยำกว่า

·       Sister size” – ในกรณีที่ขนาดคัพพอดี แต่ต้องการเปลี่ยนแปลงขนาดของลำตัว สาวๆ ก็จะต้องเปลี่ยนขนาดคัพด้วยเช่นกัน โดยมีหลักการง่ายๆ คือ เมื่อต้องการลดขนาดของลำตัว ต้องเพิ่มขนาดคัพของชุดชั้นในด้วย ตัวอย่าง เปลี่ยนจาก 34/75C เป็น 32/70D ในทางตรงข้าม ถ้าหากต้องการเพิ่มขนาดลำตัว แต่คัพไซส์พอดีแล้ว ให้เพิ่มขนาดของลำตัวและลดขนาดของคัพไซส์ลงเช่นกัน ตัวอย่าง ถ้าหากขนาดคัพพอดีกับขนาดของหน้าอกแต่ต้องเปลี่ยนขนาดรอบลำตัวคุณจะต้องเปลี่ยนขนาดคัพด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่าง เปลี่ยนจาก 34/75C เป็น 36/80B

 

เลือกแบบให้เหมาะสม

         รูปทรงหน้าอกของสาวๆ มีลักษณะแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นเรามาเลือกชุดชั้นในให้เหมาะสมกับทรงของตนเองดีกว่า

 

1)      ทรงเชอร์รี่ (Cherry)

หน้าอกไข่ดาว ขนาดเล็ก ฐานเต้าไม่ชัดเจน เนื้อหน้าอกน้อย ไม่ค่อยมีความพุ่งชันของหน้าอก ควรเลือกชุดชั้นในประเภท Pushup Bra เสริมฟองน้ำ เพื่อดันทรงหน้าอกให้พุ่งชันสวยงาม

 

2)      ทรงเลมอน (Lemon)

 

ลักษณะทรวงอกมีฐานกว้าง เนื้อเนินอกน้อย อกห่างไม่กระชับ สามารถเลือกใส่ชุดชั้นในที่มีโครงหรือไม่มีโครงก็ได้ หรือเป็นแบบ Pushup Bra เพื่อดันทรงได้ แต่ควรเน้นการเลือกชุดชั้นในรูปสามเหลี่ยม ฐานกว้างเก็บกระชับเนื้อด้านข้างได้ ด้วยการโกยเนื้อข้างลำตัวเข้ามาในชุดชั้นในให้ทรวงอกเป็นทรงอวบอิ่มมากขึ้น

 

3)      ทรงแอปเปิ้ลเขียว (Green Apple)

 

หน้าอกสวย เต้าเป็นทรงกลมได้รูปอยู่แล้ว และมีเนื้อเนินอกค่อนข้างมาก จึงสามารถใส่ชุดชั้นในได้สวยทุกรูปทรง มีโครงหรือไม่มีโครงก็ได้ แค่อาจจะต้องเลือกชุดชั้นในที่มีฐานทรงกลมและมีขนาดที่เหมาะสมกับหน้าอกของสาวๆ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

 

4)      ทรงสับปะรด (Pineapple)

 

ลักษณะหน้าอกค่อนข้างใหญ่ ความพุ่งชันของเนินอกมาก และมีเนื้อส่วนเกินบริเวณหน้าอกมากเช่นกัน กล้ามเนื้อหน้าอกเริ่มอ่อนแอ จนเป็นสาเหตุของความหย่อยคล้อยในอนาคต ชุดชั้นในที่เหมาะสมกับหน้าอกทรงนี้คือ แบบเต็มทรง Full Cup ที่มีขอบด้านข้างค่อนข้างสูง เพื่อช่วยเก็บกระชับเนื้อส่วนเกินด้านข้าง และอีกแบบคือ Soft Bra ไม่มีฟองน้ำ ที่สามารถช่วยประคองทรวงอกของสาวๆ ได้เป็นอย่างดี

 

5)      ทรงสตรอเบอร์รี่ (Strawberry)

 

หน้าอกของสาวๆ ที่เริ่มหย่อยคล้อย โดยมีลักษณะความพุ่งชันของหน้าอกน้อยคล้ายทรง Lemon แต่มีฐานเต้าที่กว้างกว่า จึงควรเลือกชุดชั้นในดันทรง มีโครงอ่อนช่วยประคองทรง หรือเป็นแบบตะขอหน้า เพื่อยกกระชับหน้าอกให้ชิดกันจนอวบอิ่ม ยกเชิดสูงขึ้นจนสวยได้รูป

 

6)      ทรงแพร์ (Pear)

 

เต้าทรงหย่อนคล้อยชัดเจน กล้ามเนื้อหน้าอกอ่อนแอ จนเนื้อเนินอกส่วนใหญ่ไปกองบริเวณฐานที่มีลักษณะกว้าง ดังนั้นควรเลือกชุดชั้นในที่มีโครง ดันทรง เพื่อประคองทรงหน้าอก ป้องกันการหย่อยคล้อยเพิ่มเติม และมีขอบลำตัวหนาเพื่อเก็บทรงเนื้อด้านข้าง

 

         เพียงเท่านี้ สาวๆ ก็จะสามารถเลือกขนาดชุดชั้นในและแบบที่เหมาะสม ให้กับหน้าอกของตัวเองได้แล้ว แต่ถ้าใครยังไม่มั่นใจหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกชุดชั้นใน ก็สามารถส่งข้อความมาพูดคุยกันได้ที่ LINE@ : @SabinaThailand หรือเข้ารับคำปรึกษาได้ที่ Shop SABINA ทุกสาขาค่าา ??